วันที่ ๒๗ พ.ย. ๒๕๖๒ นายปวิณ ชำนิประศาสน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งได้เข้าร่วมการประชุมคณะมนตรีองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน สมัยที่ ๑๑๐ ณ อาคารสำนักงานทรัพย์สินทางปัญญา นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส ในฐานะหัวหน้าประเทศไทยร่วมกับ นายเสข วรรณเมธี เอกอัครราชทูตและผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา ได้กล่าวถ้อยแถลงในนามประเทศไทย (Country Statement) โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้

โดยถ้อยแถลงฯ ดังกล่าว มีสาระสำคัญ โดยสรุป ดังนี้
๑.) ได้แสดงความขอบคุณองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐานในฐานะเป็นองค์กรที่มีภารกิจหลักในการดูแลผู้โยกย้ายถิ่นฐานทั่วโลก และสำหรับประเทศไทย โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทยที่มีภารกิจในการดูแลผู้หนีภัยการสู้รบจากประเทศเพื่อนบ้านกว่า ๔๐ ปี ขอขอบคุณ องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐานในฐานะหน่วยงานภาคีที่ได้ให้การสนับสนุนการดำเนินการเป็นอย่างดีเสมอมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโครงการส่งผู้หนีภัยการสู้รบไปตั้งถิ่นฐานใหม่ยังประเทศที่สาม และโครงการส่งผู้หนีภัยการสู้รบกลับมาตุภูมิโดยสมัครใจ

๒.) รวมทั้งแจ้งให้ที่ประชุมฯ ทราบถึงความคืบหน้าของประเทศไทยในการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผู้โยกย้ายถิ่นฐานที่เข้ามาในประเทศไทย อาทิ เรื่องการให้โอกาสทางการศึกษาแก่ผู้โยกย้ายถิ่นฐานที่เป็นเยาวชน, การดำเนินมาตรการและแนวทางแทนการกักตัวเด็กในสถานกักกันคนต่างด้าวเพื่อรอการส่งกลับ, การป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ต่อผู้โยกย้ายถิ่นฐาน โดยเฉพาะผู้โยกย้ายถิ่นที่เป็นสตรีที่เป็นเหยื่อค้ามนุษย์สามารถอาศัยในประเทศไทยเป็นการชั่วคราวได้, การบริการจัดการการทำงานของแรงงานต่างด้าวจากประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งความพยายามของประเทศไทยในการดำเนินการเพื่อนำข้อตกลงระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐานที่ปลอดภัย เป็นระเบียบ และปกติ (Global Compact for Safe , Orderly and Regular Migration : GCM) ไปสู่การปฏิบัติภายในประเทศ

 ทั้งนี้ ประเทศไทยได้แสดงเจตนารมณ์ที่ชัดเจนในการทำงานร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐานและประเทศสมาชิกในการแสวงหาแนวทางที่ยั่งยืนในการบริหารจัดการต่อสถานการณ์ผู้โยกย้ายถิ่นฐานต่อไป

โดย นายอันโตนิโอ วาเลนติโน ผู้อำนวยการใหญ่องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน ได้กล่าวขอบคุณการต้อนรับของประเทศไทยเมื่อคราวเดินทางเยือนประเทศไทยเมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมทั้งชื่นชมบทบาทของประเทศไทยในฐานะประเทศที่มีบทบาทนำในภูมิภาคในการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับผู้โยกย้ายถิ่นฐานภายในประเทศ อาทิ การขับเคลื่อนนโยบายด้านสาธารณสุขเพื่อให้ครอบคลุมผู้โยกย้ายถิ่นฐาน การดำเนินมาตรการแทนการกักตัวเด็กผู้โยกย้ายถิ่นฐานในสถานกักกันคนต่างด้าว และการจัดตั้งกองทุนเพื่อผู้โยกย้ายถิ่นฐาน รวมทั้งการดำเนินการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

ภาพกิจกรรม