วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567 ระหว่างเวลา 13.30 - 16.30 น. ณ ห้องประชุม 704 ชั้น 7 สำนักงาน กสม. ปมท. ได้มอบหมาย นายมานะ สิมมา ทปษ.กม. เป็นผู้แทน มท. เข้าร่วมการประชุม รับฟังความคิดเห็นเพื่อจัดทำข้อเสนอแนะในการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย กรณี การปรับปรุงแก้ไขคำสั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ 1/2558 เรื่องการไม่อนุญาตให้คนต่างด้าวบางจำพวกเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งส่งผลให้ผู้เสียหายถูกห้ามเข้าประเทศไทย และการติดตามผลการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะของ สกม. เรื่อง ข้อเสนอแนะ ในการแก้ไขปรับปรุงระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการคัดกรองคนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรและไม่สามารถเดินทางกลับประเทศอันเป็นภูมิลำเนาได้ พ.ศ. 2562 และการออกหลักเกณฑ์ วิธีการ หรือเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน พร้อมด้วย ผู้แทนจาก ปค. และ ตท.สป.

ทปษ.กม. ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ 1) ประเภทของผู้เข้าในราชอาณาจักร 2) การกำหนดระยะเวลาสำหรับการอนุญาตให้ผู้เข้ามาในราชอาณาจักรแต่ละประเภท 3) โทษห้ามมิให้เข้ามาในราชอาณาจักร ตามคำสั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ 1/2558 และ 4) กรอบระยะเวลาระยะเวลาการอุทธรณ์คำสั่ง และระยะเวลาการแจ้งผลการอุทธรณ์ และได้มีการหารือในประเด็นสำคัญ 2 ประเด็น ได้แก่ 1) หากผลของการอุทธรณ์เป็นคุณ ผู้ที่ถูกลงโทษจะมีวิธีอื่นใดเพื่อเข้ามาในราชอาณาจักรได้หรือไม่ และ 2) ในกรณีที่มีความจำเป็น เช่น ต้องอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัว เหตุผลเพื่อความปลอดภัยจะสามารถอยู่ในราชอาณาจักรได้เป็นกรณีพิเศษหรือไม่ มีกระบวนการดำเนินการอย่างไร

ในที่ประชุม เห็นชอบในหลักการว่าควรจะมีการผ่อนผันให้คนต่างด้าวที่อยู่ในราชอาณาจักรเกินระยะเวลาที่กำหนดสามารถอุทธรณ์ได้ ซึ่งสามารถทำได้โดยการแก้พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมมีข้อเสนอแนะว่า ควรหาข้อมูลสถิติผู้ได้รับผลกระทบจากการห้ามมิให้อุทธรณ์ พร้อมทั้งแยกสาเหตุของการอยู่ต่อในราชอาณาจักรเกินระยะเวลาที่กำหนด เพื่อให้มีความชัดเจน เกิดประโยคสูงสุด และไม่กระทบต่อความมั่นคงโดยรวม ก่อนที่จะมีการพิจารณาผ่อนผัน หรือการดำเนินการสู่การผ่อนผันในกรณีต่าง ๆ