วันนี้ (วันที่ ๑๑ ก.ค. ๒๕๖๖) ตามที่ ปมท. ได้อนุมัติให้ นายทรงกลด ขาวแจ้ง นวท.ชก. และนายพงษ์ศักดิ์ สื่อกระแสร์ พขร. เดินทางมาราชการ ณ จ.ตาก เพื่อร่วมสังเกตการณ์การตรวจสอบบุคคล ณ พื้นที่พักพิงชั่วคราวฯ บ้านอุ้มเปี้ยม อ.พบพระ และพื้นที่พักพิงชั่วคราวฯ บ้านนุโพ อ.อุ้มผาง ร่วมกับคณะ สอท. สหรัฐฯ และผู้แทน กต. นั้น

รอง หน.สศอ./ผอ.ตท. ได้มอบหมายให้ นายทรงกลดฯ ไปสังเกตการณ์สถานการณ์บริเวณสะพานมิตรภาพไทย - เมียนมา และการปฏิบัติในเรื่องการผ่านแดน นั้น มีสาระสำคัญโดยสรุป ดังนี้

(๑) สถานการณ์บริเวณสะพานมิตรภาพฯ แห่งที่ ๑ มีการสัญจรเข้า-ออก ของยานพาหนะ ค่อนข้านมาก รวมทั้ง การสัญจรข้ามแดนของบุคคลยังคงมีให้เห็นอย่างต่อเนื่อง

(๒) จากการสอบถามข้อมูลจาก จนท. ซึ่งปฏิบัติงาน ณ สะพานมิตรภาพฯ แห่งที่ ๑ ทราบว่า ปัจจุบันทางการเมียนมาระดับท้องถิ่นใน จ.เมียวดี ตรงข้าม อ.แม่สอด แจ้งว่า ได้ห้ามบุคคลต่างชาติใช้หนังสือเดินทาง (Passport) เข้าไปยังประเทศเมียนมา ผ่าน ๒ ช่องทางผ่านแดนใน อ.แม่สอด จ.ตาก ได้แก่
๑. จุดผ่านแดนถาวรเมียวดี-แม่สอด สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ ๑ บริเวณบ้านริมเมยตำบลท่าสายลวด อ.แม่สอด
๒. จุดผ่านแดนถาวรเมียวดี-แม่สอด สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ ๒ บริเวณบ้านวังตะเคียนใต้ ตำบลท่า
สายลวด อ.แม่สอด
เนื่องมาจากฝ่ายเมียนมา ฝ่ายจีน และฝ่ายไทย ได้มีปฏิบัติการร่วมบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา เพื่อปราบปราบ
กิจกรรมผิดกฎหมายและการลักลอบเดินทางเข้าออกโดยผิดกฎหมายของบุคคลต่างชาติที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพนันและขบวนการหลอกลวงออนไลน์ และเพื่อให้ปฏิบัติการดังกล่าวเกิดประสิทธิผลยิ่งขึ้น ทางการเมียนมาจึงได้ระงับการเดินทางเข้าประเทศของบุคคลต่างชาติผ่านจุดผ่านแดนถาวรฯ ๒ แห่งข้างต้น โดยมาตรการดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๖๖
ที่ผ่านมา

(๓) บุคคลสัญชาติไทยยังคงสามารถข้ามแดนผ่านจุดผ่านแดนถาวรฯ ๒ แห่งข้างต้นได้ตามปกติ โดยใช้บัตรผ่านแดน (Border Pass) ที่อยู่ในความรับผิดชอบของ มท. แต่จะสัญจรได้เฉพาะพื้นที่ จ.เมียวดี ซึ่งเป็นเขตติดต่อเท่านั้น

ในขณะที่ การข้ามแดนโดยใช้หนังสือเดินทางไทย (Passport) เป็นเอกสารประจำตัวต้องมีการตรวจลงตรา (VISA) ก่อนข้ามแดนทุกกรณี